ไก่ไซ่ง่อนเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของพี่น้องชาวภาคอีสานมานานแล้ว เนื่องจากชาวญวนอพยพซึ่งมาตั้งหลักฐานในเมืองไทยแถบจังหวัดชายแดนภาคอีสาน ได้นำไก่เวียดนามหรือไก่ไซ่ง่อนเข้ามาเลี้ยงและขยายพันธุ์ เพื่อเป็นอาหารของพวกเขาเนื่องจากเป็นไก่ตัวโตมีเนื้ออกและปั้นขามากไม่ได้มีเจตนาจะเลี้ยงให้เป็นไก่ชนะไก่ไซ่ง่อนซึ่งถูกเลี้ยงเป็นไก่แกงก็มีสัญชาตญาณนักสู้สูงไม่แพ้ไก่พม่าหรือไก่ไทย คราใดไซ่ง่อนกับไข่อนประลองแข้งกันเปรียบได้ดังแรดกับแรดชนกัน ฉะนั้นเพราะไก่ไซ่ง่อนตัวใหญ่ส่วนมาก มีน้ำหนักเกิน 3.5 กก. ขึ้นไปทั้งนั้นหนังหนาลโตกำยำตีหนักและตีแม่นเสียงตีกันแต่ละผลัวะดังแสยงรูหูดีนักแล
ข้อดีของไก่ไซ่ง่อนพอจะแยกออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1. กระดูกและโครงสร้างลำตัวแข็งแกร่งประกอบด้วยเส้นเอ็นที่แข็งแรง
2. กล้ามเนื้อทุกส่วนเป็นมัดกล้ามขนาดใหญ่เนื้อแน่นแสดงถึงพละกำลังและความอดทน
3. มีปอดใหญ่หัวใจใหญ่ทำให้เหนื่อยช้าหายเหนื่อยเร็ว
4. หนังหนาหนังเหนียวเกิดบาดแผลฉีกขาดยากบอบบ่ายาก
5. มีความแข็งแรงกำลังมากทำให้ยืนได้นานแรงไม่หมดง่ายมีลูกยึดได้ตลอดและฟื้นตัวได้เร็ว
6. มีความอดทนเป็นเลิศ
7. มีปากใหญ่แข็งแรงเปิดแผลบนผิวหนังคู่ต่อสู้ได้ง่าย
8. แข้งใหญ่-กลมตีหนักตีแม่นตีให้ไก่กลัวง่าย
จุดอ่อนของไก่ไซ่ง่อนโดยเฉลี่ย
1. เป็นไก่ขาดเชิงไม่สู้คอถูกบดเบียดมาก ๆ มักจะยอมเชิงก้มหัว
2. โหดไม่พอไม่มีลูกโกรธคิดจะแก้แค้นเอาคืน
3. โขนงคิ้ว บางหัว แคบยาว ท้ายทอยแคบ เวลาถูกโจมตีบริเวณหน้าตา อาจได้รับอันตรายถึงบอดได้ง่าย
4. ปากช้า มักเอี้ยว จับคางคู่ต่อสู้ไม่ ทันการณ์นักเลี้ยงไก่ชนไทยเล็งเห็นจุดเด่นจุดด้อยของไก่ไซง่อนจึงนำไก่ไซ่ง่อนมาผสมกับไก่ชนไทยเพื่อดึงเอาความโดดเด่นทางพันธุกรรมออกะมาทั้งสองสายพันธุ์
ได้ไก่เลือดผสมทีมีทั้งเชิงและความทรหด-ตีหนัก-ตีแม่นมารวมอยู่ในตัวเดียวกันได้สำเร็จและกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางขณะนี้